กานพลู หนึ่งในส่วนผสมของยาสีฟันเอมไทย

                               หากพูดถึงสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและให้รสชาติที่เผ็ด เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงกานพลู เนื่องจากกานพลูจะให้กลิ่นที่หอมเฉพาะตัว และมีการนิยมนำดอกตูม ต้น ผล เปลือก ใบ และน้ำมันหอมระเหยมาใช้ประโยชน์มากมาย สำหรับใครที่ชื่นชอบกลิ่นหอมของสมุนไพรชนิดนี้มากเป็นพิเศษ มาลองดูกันดีกว่าว่าคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกานพลูจะมีความพิเศษมากกว่ากลิ่นหอมของมันหรือเปล่า

รู้จักกานพลู

กานพลู พืชที่ชื่นชอบพื้นที่อากาศชื้น ซึ่งถือเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นพืชตระกูลไม้ยืนต้นขนาดกลาง ส่วนที่นิยมนำเอามาใช้เป็นยาดมก็คือ ดอกตูมที่แก่จัด ซึ่งหมอยาจะเลือกเก็บดอกแก่มาตากให้แห้งจากนั้นก็นำมาเก็บไว้ใช้ต่อไป สำหรับดอกกานพลูที่เราเห็นมีขายตามท้องตลาดนั้น โดยทั่วไปมักจะเป็นดอกกานพลูที่มีการกลั่นเอาน้ำมันระเหยออกไปแล้ว

ในส่วนของกานพลูถือได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรในกลุ่มเครื่องเทศที่ได้มีการบันทึกการใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ และยังเป็นหนึ่งในเครื่องยาที่เอามาใช้ทำมัมมี่อีกด้วย กานพลูจัดได้ว่าเป็นเครื่องเทศที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในยุคของการล่าอาณานิคม สำหรับคนเอเชียจะมีการนำกานพลูมาใช้เพื่อการรักษาโรค ในขณะที่ชาวตะวันตกเลือกใช้กานพลูสำหรับการแต่งกลิ่นอาหารและทำเครื่องสำอางต่างๆ

คุณค่าทางโภชนาการของกานพลู

กานพลู อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ซึ่งพบว่าในกานพลูประกอบไปด้วยสาร eugenol 72-90% ที่มีส่วนช่วยแก้อาการปวดฟัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และยังมีสารอื่นๆ ที่สำคัญอีกมากมาย ได้แก่ Vanillin, methyl salicylate, benzaldehyde และ rhamnetin โดยสารเหล่านี้ล้วนมีสรรพคุณช่วยแก้อาการป่วยต่างๆ และดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น จึงนิยมนำกานพลูมาใช้เป็นยาสมุนไพรนั่นเอง

ประโยชน์ของกานพลู

นอกจากจะเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวแล้ว ยังเป็นสมุนไพรที่สามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะดอกตูมแก่ กานพลูเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์และสรรพคุณทางยาแก่ร่างกายมากมาย ซึ่งก็มีดังนี้

1. ช่วยเผาผลาญแคลอรี่

กานพลูมีสรรพคุณช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และผู้ที่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างยิ่ง

2. ช่วยเพิ่มน้ำนมในคุณแม่ลูกอ่อน

กานพลูคือ สมุนไพรที่มีการแนะนำให้คุณแม่ที่ให้นมบุตรได้ทาน เพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และช่วยทำให้น้ำนมของคุณแม่มีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็มีการแนะนำให้คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการทานสมุนไพรชนิดนี้ โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหยกานพลู เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

3. ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

กานพลูมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าสารยูจีนอล ซึ่งสารชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ จึงช่วยลดอาการอักเสบและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีส่วนทำให้เกิดอาการแน่นจุกเสียดได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อทานกานพลูเข้าไปแล้วจึงช่วยในการขับลม ขับน้ำดี ช่วยย่อย ลดอาการปวดเกร็ง และลดการบีบตัวของลำไส้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องขึ้น ขับลมในลำไส้ และแก้ลมได้อีกด้วย

4. มีส่วนช่วยในการขับน้ำคาวปลา

กานพลูไม่ได้มีดีเฉพาะแค่กลิ่นหรือช่วยในการรักษาอาการปวดฟันอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการขับน้ำคาวปลาได้อีกด้วย ที่สำคัญยังช่วยขับพิษจากน้ำเหลือง ทำให้สามารถขับถ่ายได้เป็นปกติ และยังช่วยลดอาการโลหิตเป็นพิษได้เช่นกัน

5. ช่วยรักษาโรคต่างๆ

นอกจากกานพลูจะมีสรรพคุณช่วยรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการรักษาโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น โรคหอบหืด โรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยขับเสมหะ แก้อาการไอ อาการเหน็บชา ช่วยกระตุ้นการหลั่งเมือกและลดกรดในกระเพาะอาหาร เป็นต้น

ไอเดียการกินกานพลูเพื่อสุขภาพ

การนำกานพลูมากินเพื่อสุขภาพ มีไอเดียในการนำมากินอย่างหลากหลายดังต่อไปนี้

1กินรักษาอาการท้องอืด

ใครที่มีอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือจุกเสียด สามารถแก้อาการเหล่านี้ได้ด้วยดอกกานพลูแห้ง 7-8 ดอก นำมาต้มในน้ำแล้วดื่ม หรือจะใช้วิธีการบดเป็นผงแล้วชงดื่มก็ได้เช่นกัน เพราะวิธีเหล่านี้ล้วนช่วยแก้อาการท้องอืดได้ อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กอ่อนมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อก็คือ นำดอกกานพลูแห้ง 1 ดอกไปแช่ไว้ในกระติกน้ำร้อนที่เอาไว้ใช้สำหรับชงนม แค่นี้ก็ป้องกันอาการดังกล่าวได้แล้ว

2ทำน้ำกานพลูเพื่อสุขภาพ แก้อาการไอ

น้ำกานพลูจะช่วยลดอาการไอ ทำให้รู้สึกชุ่มคอ และดีต่อสุขภาพ สามารถดื่มได้ทุกวันหรือจะทำดื่มเฉพาะเมื่อมีอาการไอก็ได้ โดยมีวิธีการทำน้ำกานพลูดังนี้

ส่วนผสม

  • ดอกกานพลู 1/2-1 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1/4 แก้ว
  • เถาชะเอม 1/4 ขีด (25 กรัม)
  • ลูกกระวาน 1-2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ขีด
  • น้ำสะอาด 2 1/2 แก้ว
  • เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ นำเถาชะเอมมาสับเป็นชิ้นๆ แล้วนำเอาใส่หม้อต้มน้ำพร้อมกับดอกกานพลูและลูกกระวานที่ทุบแล้ว โดยรอให้น้ำเดือดประมาณ 5 นาที จากนั้นยกลงจากเตาแล้วกรองเอาแต่น้ำที่ได้ เทน้ำมะนาวผสมลงไป เติมน้ำตาลและเกลือป่นตามใจชอบ เท่านี้ก็จะได้เครื่องดื่มสมุนไพรกานพลูเพื่อสุขภาพแล้ว

3ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร

กานพลู เมื่อนำมาใส่เป็นส่วนประกอบในอาหาร จะทำให้อาหารมีคุณค่าและมีประโยชน์มากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มรสชาติ ความเผ็ดร้อนให้กับอาหารได้เป็นอย่างดี โดยเมนูที่นิยมใส่กานพลูได้แก่ ไก่น้ำแดง ฉู่ฉี่ปลาทับทิม พะโล้แบบปีนัง และขาหมูอบกานพลู เป็นต้น

ไอเดียการใช้กานพลูเพื่อสุขภาพ

กานพลู สามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและความงามได้อย่างหลากหลายวิธี โดยเราก็ได้รวบรวมมาแนะนำกันดังนี้

1นำมาเคี้ยวแก้ปวดฟัน

เพราะกานพลูมีสารยูจีนอล ที่สามารถลดอาการปวดฟันได้ จึงนิยมนำมาใช้เพื่อแก้อาการปวดฟันมากที่สุด โดยจะนำดอกของกานพลูมาเคี้ยว แล้วอมไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวด หรือนำมาตำพอแหลกผสมกับเหล้าขาว ใช้สำลีจิ้มแล้วอุดไปที่ฟัน ก็จะช่วยลดอาการปวดได้ดีเช่นกัน

2ใช้ดับกลิ่นปาก

เพียงแค่นำดอกตูมของกานพลู 2-3 ดอกมาอมไว้ในปาก ก็จะช่วยดับกลิ่นปากและกลิ่นเหล้าได้ โดยหากใครที่มีปัญหากลิ่นปากแรง ก็ลองทำตามวิธีนี้กันดูรับรองว่าได้ผลแน่นอน

3รักษาแผลไฟไหม้

เมื่อมีแผลที่เกิดจากไฟไหม้ ให้นำใบของกานพลู มาต้มเป็นน้ำใช้อาบ จะช่วยแก้ผื่นคันและลดอาการปวดแสวปวดร้อนได้ดี นั่นก็เพราะใบของกานพลูมีฤทธิ์เย็นนั่นเอง

4. แก้อาการผดผื่นคัน

กานพลูช่วยแก้อาการผดผื่นคันได้เป็นอย่างดี โดยให้เอาส่วนใบของกานพลูมาต้มแล้วนำไปอาบ วิธีนี้จะช่วยแก้ผดผื่นคันได้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นำใบกานพลูไปปิ้งไฟ จากนั้นนำไปปิดแผลที่เกิดจากไฟไหม้จะช่วยบรรเทาอาการและรักษาแผลได้อีกด้วย

ข้อควรระวัง

กานพลูอาจมีประโยชน์ก็จริง แต่ก็ต้องนำมาใช้อย่างระมัดระวังด้วย เพราะสารบางอย่างในกานพลู หากได้รับมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดพิษได้ ที่สำคัญ ห้ามใช้กับหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยโรคตับไตเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ห้ามใช้กับยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ และสมุนไพรหรือยาที่มีผลทำให้เกล็ดเลือดต่ำ เพราะกานพลูจะมีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้าลงนั่นเอง

ทราบกันแบบนี้แล้ว การกินการใช้กานพลูก็ควรนำมาใช้อย่างถูกต้อง โดยควรศึกษาวิธีการกินการใช้เพื่อสุขภาพและดูข้อควรระวังด้วย เพียงแค่นี้ก็จะมีสุขภาพดีจากสมุนไพรกานพลูได้แล้ว

Visitors: 147,287